ปราสาทตาเมือนธม(หรือช่องเขาตาเมียง) เทือกเขาพนมดงรัก เป็นปราสาทขนาดใหญ่ที่สุดในอุทยานประวัติศาสตร์กลุ่มปราสาทตาเมือน ซึ่งประกอบด้วยปราสาทหินสามหลัง เรียงลำดับจากขนาดใหญ่ไปขนาดเล็ก คือ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด และปราสาทตาเมือน
ฉันอยากจะนำเสนอเรื่องปราสาทนี้ขึ้นมา เนื่องจากช่วงเดือน เมษายนที่ผ่านมาของปี2554นี้ ดิฉันได้กลับบ้านที่ต่างจังหวัดอยู่ที่ จ.สุรินทร์ ซึ่งหมู่บ้านที่ฉันได้อาศัยอยู่นั้นได้อยู่ใกล้กับปราสาทตาเมือนและดิฉันก็ได้ไปเที่ยวที่ปราสาทนี้กับครอบครัวของฉันซึ่งทุกๆปีจะมีการจัดงานเชื่อมสัมพันธ์ไทยกัมพูชาที่ปราสาทแห่งนี้ช่วง วันที่ 11 เมษายนของทุกปีซึ่งปี2554นี้เป็นปีที่10
ตอนที่ฉันได้เจอปราสาทนี้ครั้งแรกเมื่อตอน7ปีที่แล้วฉันรู้สึกเหมือนได้อยู่อีกดินแดนหนึ่งของโลกใบนี้ซึ่งเป็นสิงมหัสจรรย์และแปลกประหลาดมาก เพราะปราสาทแห่งนี้ได้สร้างด้วยก้อนหินขนาดใหญ่แล้วนำมาตั้งซ้อนกันเป็นรูปทรงปราสาทอย่างที่คุณได้เห็นในรูป ซึ่งมีชาวบ้านผู้เฒ่าผู้แก่ได้เล่ากันมาว่าปราสาทแห่งนี้ได้ทำมาจากดินเหนียวที่คนสมัยก่อนได้ช่วยกันขุดหลุมเป็นบ่อใหญ่ๆ เมื่อมีฝนตกลงมาดินที่ขุดไว้ก็จะเปียกและเหนียวแล้วเขาก็จะนำเอาดินในบ่อนั้นมาช่วยกันก่อสร้างจนเกิดขึ้นเป็นปราสาทให้ลูกหลารุ่นหลังได้เห็นและศึกษาในปัจจุบัน
ตัวปราสาทตาเมือนธม หันหน้าไปทางทิศใต้ ผิดแผกจากแห่งอื่นซึ่งมักจะหันหน้าไปทางทิศตะวันออก รับกับเส้นทางที่มาจากเขมรต่ำผ่านมาทางช่องทางตาเมือนนี้
ปราสาทตาเมือนธมประกอบด้วยปราสาทประธาน มีอาคารอื่น คือปรางค์ก่อด้วยหินทรายสองหลัง อยู่ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และตะวันตกเฉียงเหนือของปราสาทประธาน มีบรรณาลัยศิลาแลงสองหลัง และนอกระเบียงคดทางทิศเหนือ มีสระน้ำขนาดเล็กสองสระ
ปราสาทแห่งนี้อยู่ใกล้เขตชายแดนเขมรมากที่สุด การเที่ยวชมจึงควรอยู่เฉพาะภายในเขตปราสาทเท่านั้น ไม่ควรเดินออกไปไกลจากแนวต้นไม้รอบปราสาทเพราะพื้นที่นี้ยังไม่ปลอดภัยนัก เนื่องจากพื้นที่ทั้งหมดในป่าแห่งนี้ เต็มไปด้วยระเบิดทั้งของทหารไทยและของทหารของกัมพูชา มีแต่คนชำนานทางเท่านั้นที่จะเข้าไปได้เพราะจะรู้หลักและทิศทางการเดินในป่าที่จะไม่ให้เหยีบระเบิด
ประวัติของปราสาทตาเมือน ซึ่งประที่ดิฉันได้บรรยายนี้ไม่ได้มาจากเว็ปไซด์ใดๆ แต่เป็นการบอกเล่าของบรรพบุรุษของสืบทอดกันมาจนถึงลูกหลาน ในป่าใหญ่แห่งหนึ่งได้มีนายพรานได้เข้าไปล่าสัตว์และได้ไปพบกับไก่ป่ามีขนาดตัวใหญ่มาก และนายพรานผู้นั้นก็ได้ตามล่าไก่ตัวนั้นเข้าไปในป่าจจนได้ไปพบกับปราสาทแห่งนี้ จนได้ชื่ว่า (ปราสาทตาเมือนธม เป็นภาษาของเขมร แปลว่า ตามไก่ใหญ่)
อยากบอกว่าเวลานั้นร้อนมากๆ ถึงจะร้อนแค่ไหนแต่ก็ขอแอ๊ปไว้ก่อนะจ๊ะ ประตูทะลุมิติ สังเกตุให้ดีช่องประตูนี้ทะลุกันได้นะคะ นายแบบของฉัน ความหมั่นใจเต็มร้อยแต่หน้าตาไมได้ช่วยอะไรเลย นั่งพักสักหน่อย กว่าจะเดินมาถึงเล่นเอากับหอบไปเลย มุมนี้สวยสุดๆไปเลยใช่ไหมคะ นี่คือปราสาทตาควาย ซึ่งผู้คนเรียกแผงมาจากปราสาทตาวาย |
แต่หลังจากที่ชาวบ้านได้ไปร่วมงานเชื่อมความสัมพันธ์ไทยกัมพูชาได้ไม่นาน ก็ได้เกิดเหตุการณ์ร้ายๆ
ขึ้นที่สถานที่แห่งนี้ ซึ่งทุกท่านอาจจะได้รู้เรื่องข่าวสารกันบ้างแล้ว ที่กัมพูชาได้โจมตียิงทหารของไทยได้ทำให้นายทหารเสียชีวิตหลายนาย และได้มีการออกข่าวหรือสื่อต่างๆเป็นจำนวนมาก
ตัวฉันรู้สึกเศร้าและเสียใจมากในช่วงเวลาขณะนั้น เพราะไม่ใช่แค่ทหารของไทยกัมพูชาที่สู้รบกันเท่านั้น
แต่ประชาชนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านระแหวกนั้นต้องพากันย้ายออกจากพื้นที่ ที่พักอาศัยออกไปให้พ้นเขตวิถีกระสุนของฝั่งกัมพูชา ซึ่งฉันได้มีความวิตกกังวลและหวาดกลัวมากเนื่องจาก คนในครอบครัวของฉันได้ตกอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย โดยเฉพาะน้องสาวอันเป็นที่รักและยายซึ่งมีอายุมากถึง 90ปีแล้ว
เขาทั้ง2คนต้องพากันตกอยู่เหตุการณ์ที่หน้าหวาดกลัว ซึ่งเวลานั้นฉันกับแม่ได้แต่รอฝั่งข่าวจากทางบ้านว่าเป็นอย่างไรบ้างเพราะตัวฉันกับแม่ได้อยู่ที่กรุงเทพฯ และจะช่วยเหลืออะไรก็ไม่ได้ แต่ท้ายที่สุดแล้วเรื่องร้ายๆก็ได้ผ่านไปด้วยดี
ท้ายสุดนี้ดิฉันก็ขอให้นายทหารทั้งหลายที่ได้ช่วยชาวบ้านที่ใกล้เขตุพื้นที่ชายแดนนั้นให้เขาแคล้วคาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปรวงขอให้พระศรีรัตนตรัยโปรดจงคุ้มครอง และก็ให้นายทหารที่ได้เสียชีวิตในเหตุการณ์ที่เกิดึ้นนั้นไปสู่สุขติและอยู่ในภพภูมิที่ดีสมกับที่เขาได้สละชีวิตเพื่อปกป้องบ้านเมือง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น